บุคคลที่เสี่ยงเป็นนิ้วล็อค
โรคนี้ทำให้มีการเกิดความลำเค็ญสำหรับเพื่อการใช้ชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่จะกำเนิดกับคนที่ใช้งานมือในลักษณะเกร็งนิ้วเสมอๆการใช้งานมืออย่างมาก บีบ กำ หิ้วของหนักล้วนกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดการเสียดสีและเส้นเอ็นบวม ดังเช่นว่า การทำงานบ้านต่างๆการใช้กรรไกรตัดก้านไม้ ตัดผ้า การยกของหนักต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย รวมทั้งพบในหญิงมากยิ่งกว่าเพศชายโดยยิ่งไปกว่านั้นกลางคนขึ้นไป ได้แก่ เกษตรกร กสิกร นักกีฬา ช่างไม้ คนเล่นสมาร์ทโฟนแชท เล่นเกมส์ตลอดระยะเวลา นักช็อป ช่างตัดเย็บ บุคลากรคีย์ข้อมูล กุ๊ก แม่บ้านสถานที่ทำงานบ้าน
ลักษณะของการเกิดอาการที่พบ
อาการนิ้วล็อคจะไม่กำเนิดนิ้วล็อคในทันทีทันใดแม้กระนั้นจะออกอาการออกมาเป็นระยะ เพื่อเป็นการเตือนล่วงหน้าให้เห็นอยู่เสมอเวลา ให้สังเกตดังต่อไปนี้ อาการนิ้วล็อคเกิดจากอะไร เริ่มจากเจ็บฝ่ามือ ปวดนิ้วมือ ปวดมือ มีลักษณะอาการนิ้วสะดุดขึ้นลง หรือกำมือแล้วเหยียดหยามไม่ออก
ระยะที่ 1 ปวดรอบๆโคนนิ้วมือด้านฝ่ามือ แต่ไม่มีอาการติดล็อค
ระยะที่ 2 มีอาการปวดมากยิ่งขึ้นกว่าระยะที่ 1 และเริ่มมีการสะดุดเมื่อขยับนิ้ว
ระยะที่ 3 นิ้วติดล็อคเมื่องอ ดูหมิ่นเหยียดหยามไม่ออก จำเป็นต้องใช้มืออีกข้างช่วยดึงนิ้ว หรือล็อคในท่าเหยียดหยามงอไม่ได้
ระยะที่ 4 อักเสบมากนิ้วงอติด ไม่สามารถที่จะเหยียดให้ตรง ถ้าเกิดเหยียดจะปวดจนกระทบกับการใช้นิ้วสำหรับในการดำรงชีวิตทุกวันทั้งหมด
การดูแลและรักษาอาการนิ้วล็อค
1.ในระยะต้นที่เป็นให้รักษาเบื้องต้นโดยพักการใช้แรงงานมือ เพราะเหตุว่าส่วนมากเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการใช้แรงงานมือเกินฐานะ แล้วหลังจากนั้นเอามือไปแช่ลงไปภายในน้ำอุ่นกับบริหารมือเบาๆแล้วรับประทานยาลดอักเสบ บวม ปวด รวมทั้งอาจใส่ที่ดามนิ้วตอนกลางคืนเพื่อลดการงอนิ้ว
2.หมอจะให้การรักษาตามความร้ายแรงของโรค เพื่อทุเลาปวดรวมทั้งลดการอักเสบ โดยการฉีดยาสเตียรอยด์เข้าไปที่เอ็นที่อักเสบ ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่อให้การรักษาตั้งแต่เริ่มมีลักษณะอาการใหม่ๆถ้าเกิดไม่ได้เรื่อง อาจจำต้องรักษาโดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือสะกิดส่วนของพังผืดที่หนาตัวออกไป ถ้าเกิดยังไม่เป็นผลบางทีอาจต้องกระทำผ่าตัดปรับแต่ง
3.การผ่าตัด หากการรักษาด้วยแนวทางอื่นไม่ได้เรื่อง แพทย์บางทีอาจชี้แนะให้ผู้ป่วยผ่าตัดเพื่อรักษาอาการนิ้วล็อค โดยจะทำผ่าตัดส่วนที่ปลอกห่อหุ้มเอ็นของนิ้วกำเนิดปัญหา รวมทั้งทำให้เอ็นนิ้วกลับมาขยับเขยื้อนได้ปกติ โดยแพทย์จะตรึกตรองว่าผู้เจ็บป่วยควรจะได้รับการผ่าตัดจากระดับความรุนแรงของอาการแล้วก็ผลกระทบจากปัญหาสุขภาพอื่นๆร่วมด้วย
4.การดูแลรักษาทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นตัวเลือกใหม่ “คลื่นชนช็อคเวฟ” (Radial Shockwave Therapy) เป็นการรักษาโดยใช้คลื่นชน โดยใช้หลักแรงชนทำให้เนื้อเยื่อที่ยึดเกาะกันแน่นแฟ้นหรือเป็นปมกล้ามผ่อนคลายการยึดเกาะ มักเห็นผลในทันที ใช้กับผู้ที่ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง อาทิเช่น สำนักงานซินโดรม ไหล่ติด ข้อต่อติดเรื้อรัง นิ้วล็อค ปวดหลังหลังยึดติด ตกหมอน เอ็นฝ่าตีนอักเสบ ศอกอักเสบเรื้อรัง เป็นต้น